ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จะหาเสียงด้วยคำว่า Change ในปี 2008 สองปีก่อนหน้านั้น ถ้อยคำนี้เป็นหนังสือขายดีของ ทิม บราวน์ เล่มหน้าปกสีแดงที่ชื่อ Change by Design ที่นำเสนอเนื้อหาว่า การออกแบบสามารถทำให้ “สิ่งเดียวกัน” แตกต่างออกไปทั้งรสนิยมและราคา
ทิม บราวน์ บอกไว้ในปี 2006 ว่า คำว่า Change จะไม่หายไปไหน โลกจะต้องถูก “เปลี่ยนแปลง” อยู่เรื่อยๆ จากเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง กีฬา หรือผู้คนแต่ละยุค แม้เขาจะไม่ได้ระบุถึง “เชื้อโรค” แต่ตอนนี้ นาทีนี้ ชีวิตเราทุกคน ถูก Change อีกครั้ง จากโคโรน่าไวรัส
ก่อนหน้าและคล้อยหลัง… ที่โควิด-19 เข้ามาจองจำมนุษย์นั้น มี trend ต่างๆ ที่เชื่อมโยง กำกับ และควบคุมเบ็ดเสร็จพฤติกรรมคนเราในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แล้วเท่าที่ตามติด หรือสัมภาษณ์ผู้คนในด้านต่างๆ พอจะสรุป trend ที่ว่านี้ ได้ดังนี้…
1. Delivery Macho
นักฟุตบอลทำปลาขาย เหมือนที่นักเทนนิสเปิดร้านกาแฟ และไม่ต่างอะไรจากนักมวยไปอาสาขับ Grab เพื่อส่งอาหาร หลายคนที่เคยมีความสามารถทางด้านกีฬามากๆ ต้องปรับตัวกับอาชีพใหม่ชั่วคราว ที่ไม่รู้จะยาวนานแค่ไหน (ขณะที่นักกีฬาต่างชาติ ถูกโละสัญญากันหลายคน)
แต่ที่แปลกและประสบความสำเร็จมากที่สุด กลับเป็น Delivery Macho ในญี่ปุ่น จนเกิดการทำตามในหลายประเทศ คำที่ว่านี้คือการบริการส่ง “ซูชิ” หรืออาหารโดยนายแบบนักกล้าม ที่มีกิมมิคคือ เมื่อส่งอาหารถึงผู้รับเรียบร้อย ก็จะถอดเสื้อออกเพื่อให้ถ่ายรูปด้วย (แน่นอนว่าสาวๆ คือ target) สนนราคาค่าอาหารอยู่ที่ 2,900 บาทในเรทปกติ บวกกับค่าส่งค่าถ่ายอีก 1,000 บาท ก็พอดีเกือบๆ 4,000 บาท งานนี้ผู้ชายหล่อหุ่นดีมีกล้าม อู้ฟู่กันถ้วนหน้า
2. Black Lives Matter Moment
Trend นี้คือ effect ที่ส่งผลมาจากปรากฏการณ์ Black Lives Matter นั่นเอง จากการที่คนผิวสีถูกทำร้ายจนเสียชีวิตโดยตำรวจผิวขาว เราคงไม่ต้องเล่าซ้ำว่า มีแบรนด์สินค้าอะไรบ้างที่ถอดโฆษณาออกจากเฟสบุ๊ค ด้วยเหตุผลด้าน human rights
แต่มันมีผลข้างเคียงตามติดไปยังแง่มุมอื่นๆ เล่น ชื่อทีมและชื่อสนามของ วอชิงตัน เรดสกิน ซึ่งมีนักรบอินเดียนแดงเป็นโลโก้อยู่มานานหลายสิบปี ถูกเฟดเอกซ์ สปอนเซอร์หลักของทีม ขอร้องให้พิจารณาการเปลี่ยนชื่อสนามและตราสโมสร …เรื่องนี้ยังไม่ทันตั้งหลัก วันรุ่งขึ้น ก็มีข่าวออกมาจาก BBC ว่า ทีมจากดิวิชั่น 4 อย่าง เอ็กเซตเตอร์ ที่มีมัสคอตเป็น “ชนเผ่าพื้นเมือง” ถือขวานไม้ ถูกเรียกร้องให้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของ “ตัวนำโชค” เสีย…
นี่เป็น “ผลข้างเคียง” ของกระแส BLM โดยแท้ทรู…
3. Yoga on a Dome
ถ้าจะนับว่า โยคะ ไม่น้อยอยู่กลางแจ้ง ก็นับต่อได้ว่า มีความปลอดภัยมากกว่าอะไรที่อยู่ในที่ร่มหรือ Indoor แต่เพื่อให้เซฟจริงๆ ฝรั่งเขาเลยคิดออกแบบการเล่นโยคะแบบใหม่ คือมีพลาสติกมาคลุมนักเล่นแบบ private ที่ฮอลแลนด์ สร้างชิ้นส่วนเหมือนบอลลูนขนาดใหญ่ แล้วครอบตัวคนเล่นโยคะ แบบของใครของมัน มองผ่านๆ เหมือนมนุษย์อยู่ในลูกบอล ของใครของมันแบบแยกส่วน คนออกแบบบอกว่า โดยทางจิตวิทยา คนเล่นจะรู้สึกว่าเซฟจากการใกล้ชิด เพราะมีการเหงื่อและการหายใจจากการออกกำลังกาย
4. Petxercise
คล้ายๆ trend ในประเทศสแกนดิเนเวีย ที่มีการวิ่งไป เก็บขยะไป แล้วเรียกว่า plogging ที่มาจากคำว่า picking up แต่อันนี้คือเอาสัตว์เลี้ยงคือ Pet หรือหมาแมว มาออกกำลังกายคู่กันเจ้าของ หรือคนเลี้ยง trend นี้เกิดจากตอนที่มนุษย์โดยจองจำอยู่ที่บ้าน แล้วไปออกกำลังกายที่ไหนไม่ได้ นั่งๆ นอนๆ อยู่กับหมาแมว เลยเอาลูกทางอ้อม มาเล่นกิจกรรมคู่กันเสียเลย แล้วก็เอาคำสองคำมาผสมกัน คือ pet กับ exercise แล้วเรียกว่า Petxercise
5. Rooftop Farming
กระแสรักษ์โลกนั้น ไม่ใช่พัดมาสายลมแผ่ว… แล้วหายไป trend ที่เกี่ยวกับ Green น่าจะอยู่นานที่สุด เพราะคนยังคง concern เรื่องสิ่งแวดล้อม เหมือนที่เราๆ ท่านๆ concern เรื่องเชื้อโรค เมื่อเป็นแบบนี้ การตลาดของ “ทีมกีฬา” ก็ต้องรู้จักปรับตัวตามไปด้วย ไม่ใช่อยู่นิ่งๆ
ยกตัวอย่างที่หลายอาจไม่ได้สนใจ… ทีม นอริช ซิตี้ ใช้น้ำแบบรีไซเคิ่ล ชะล้างสนามบอลโดยมีเครื่องกรอง เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ เพื่อความประหยัด หรือ ทีมเซาแธมป์ตันจากภาคใต้ของอังกฤษ ใช้พลังงานจากหลอด LED ที่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ที่น่าสนใจคือ มีหลายทีมเริ่มทำแผงปลูกผักบนหลังคาสเตเดี้ยม โดยหนึ่งในนั้นคือ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (ออกเสียงว่า ท็อตเทนแน่ม)
แล้ว trend กำลังลามไปถึงสนามแข่งขันพวก NFL !
6. Sport Destination
แม้ว่า… ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “อาหารการกิน” จะเป็น “ตัวละครหลัก” ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นพระเอกของสถานที่มากมายหลายแห่ง แต่จากการที่คนเรา concern เรื่องสุขภาพอนามัย แล้วหันมาออกกำลังกาย (ผู้บริหาร Central World บอกว่า ผู้หญิงออกกำลังกายมากกว่าผู้ชาย 75-25 %) นั่นหมายความว่า ตอนนี้ และต่อจากนี้ ห้างสรรพสินค้าและสถานที่บริการ อันไม่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ต่างพร้อมเพรียงกันหันมาปรับพื้นที่ให้เป็น Sport Destination กันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นชั้นสอง เมกะ บางนา ชั้นหนึ่ง สยามเซ็นเตอร์ และหน้าห้าง ในห้าง นอกห้างของ Central World
7. Back in the Day
อันที่จริงคำนี้ มีความหมายกว้างไกล และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับกีฬา อาจจะหมายถึง “วันเก่าก่อนอันอ่อนหวาน” ที่ตอนเด็กๆ เราเคยมีความสุขกับสถานที่ ดนตรี เพลงหรือย่านสถานที่ก็ได้ทั้งนั้น แต่ในทวิตเตอร์ของฝรั่ง พวกสายเสื้อบอล มีการท้าทายหรือ challenge ให้กีฬา เอารูปตอนเด็กๆ ที่ตัวเองเคยใส่เสื้อทีมที่เชียร์ออกมาโพส อวดกัน ล่าสุด พอลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ก็มีคนสูงวัยโพสรูปเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วที่ตัวเองเคยใส่เสื้อทีมนี้ ตอนเด็กๆ…
แล้วเกิด trend ทำกันต่อไปเรื่อยๆ จนไปถึงแวดวงอเมริกันฟุตบอล
8. Mask is the new T-Shirt
ทันทีที่โควิดปกคลุม ครอบคลุมไปทั่ว หน้ากากหรือ mask กลายเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อจากมือถือ แล้วมันกลายเป็น “พื้นที่” ในการบอกกล่าวความหมาย หรือความในใจ ของผู้ใส่ เรียกว่าก่อนหน้านี้ที่เราเคยเห็น trend เสื้อยืด สกรีนเขียน wording อะไรลงไป ตอนนี้ สิ่งที่ฝรั่งบอกว่ามาแทนที่เสื้อที-เชิ้ต ก็คือ หน้ากากผ้านั่นเอง คล้ายๆ Red is the new Black อันนี้ตอนนี้… Mask is the new T-Shirt !
9. Campervan
โควิดมาพร้อมเงื่อนไขอย่างหนึ่ง นั่นคือ ไม่อนุโลมหรืออนุญาตให้กิจกรรมที่ถูกปิดล้อมด้วยพื้นที่ ได้นำเสนอตัวเองในอีกระยะหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีการคิดกันว่า กิจกรรมอะไรจะมาแทนที่กีฬาบางอย่าง ซึ่งก็มีการออกแบบสำรวจว่า การออกไปท่องเที่ยวแบบตั้งแคมป์ หรือแคมปิ้งเป็น trend ที่จะมาแทนที่ในอนาคต ตอนนี้ธุรกิจที่พักอาศัยที่อยู่ในชนบทธรรมชาติ จึงลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวต้อนรับอย่างเต็มที่
10. Wedding Sneakers
สัปดาห์ที่ผ่านมา รองเท้าคอนเวิรส ออลสตาร์ในญี่ปุ่นเพิ่งออก wedding sneakers ลายวาดด้วยมือ เพื่อเป็นแฟชั่นรองเท้าใส่ไปงานแต่งงาน โดยคนใส่จะเป็นแขกร่วมงานหรือเจ้าสาวก็ได้ แต่ก่อนหน้านี้ ก็มีอีกหลายแบรนด์ที่ออก sneakers สำหรับใส่ไปงานวิวาห์ trend นี้ฟ้องได้อย่างหนึ่งว่า อะไรก็ตามที่เป็น form มากๆ หรืออยู่กับสิ่งที่เป็นทางการมากๆ … จะถูกผ่อนคลายลงไป
ในช่วง Covid-19 ที่ทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างมากมายและหลากหลาย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว trend ไหนที่ชอบที่สุด?